วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564
สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง: ประชุมประจำเดือนสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที...
วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2564
โครงเหล็กสำหรับปูพื้นด้วยกระเบื้องแผ่น "ปลูกผักยกแคร่"
วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2564
สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง: ประชุมชี้แจงโครงการมาตรการภาครัฐ ปี 2563 และเร่งรั...
สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง: ประชุมแนวทางมาตรการการควบคุมและป้องกันแก้ไขทุเรียน...
วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2564
แนวทางการฟื้นฟูและปรับสภาพดินให้เหมาะสมกับการปลูกพืช เพื่อใช้ในการเพาะปลูกพืชรอบการผลิตครั้งต่อไป
จากสถานการณ์น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบเพิ่มความเสียหายให้กับหน้าดิน ผิวหน้าดินจะถูกชะล้างและมีตะกอนดินขนาดเล็กหรือเลน ที่ถูกพัดพามากับน้ำทับถมอยู่บริเวณผิวดิน และอุดตามช่องว่างในดิน ทำให้ดินมีปัญหาการระบายน้ำและอากาศ ในขณะเดียวกันพื้นที่มีกระแสน้ำหลากจะพัดพาจุลินทรีย์หน้าดินออกไปด้วย และอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นกรดเป็นด่างของดิน การฟื้นฟูและปรับสภาพดินหลังน้ำลดเพื่อทำการเพาะปลูกพืช ในภาพรวมมีแนวทางการปฏิบัติ ดังนี้
- ขณะที่ดินยังเปียกหรือดินชี้นอยู่ หลีกเลี่ยงการเดินเหยียบย่ำและใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าในพื้นที่ เพื่อป้องกันดินอัดแน่น โครงสร้างดินถูกทำลาย ดินขาดออกซิเจน
- เมื่อดินเริ่มแห้งให้ขุดหรือปรับเอาตะกอนดินหรือเลนที่น้ำพัดพามา ออกจากโคนต้นไม้ผล ไม้ยืนต้น และพรวนดินเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้แก่รากพืชและจุลินทรีย์ดิน
- ฟื้นฟูคุณสมบัติของดินเพื่อการเจริญเติบโตของพืชในรอบการผลิตต่อไป โดยใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มธาตุอาหารพืชในดินร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน เช่นปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และอาจต้องใช้ปูนปรับสภาพความเป็นกรดของดิน ตามสภาพความรุนแรงของกรดในพื้นที่ รวมทั้งใส่สารชีวภัณฑ์จำพวกไตรโคเดอร์มา ซี่งเป็นสารกำจัดเชื่อราในดิน
- ในพื้นที่ที่มีความลาดเท ต้องมีมาตรการป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน โดยจัดทำแนวคันดิน หรือการปลูกพืชเป็นแนวแทนคันดิน ตามแนวระดับขวางความลาดเทของพื้นที่ เพื่อที่จะสามารถเก็บกักตะกอนดินได้ โดยปล่อยให้น้ำสามารถผ่านได้บ้างบางส่วน
- การจัดการทรัพยากรดินในพื้นที่น้ำท่วมอย่างยั่งยืน โดยปลูกพืชตระกูลถั่วหรือคลุมดินด้วยเศษพืชระหว่างแถวปลูกพืช เพื่อยึดหน้าดินรวมถึงชะลอการไหลของน้ำ ซึ่งอาจพัดพาหน้าดินที่อุดมสมบูรณ์ไป
หากนาข้าวถูกน้ำท่วมขังจนเสียหายหมด หลังน้ำลดควรปลูกพืชปุ๋ยสด เพื่อปรับปรุงบำรุงดินและเพิ่มธาตุอาหารพืช เช่น ปอเทือง โสนแอฟริกัน ถั่วพร้า ถั่วมะแฮก จะช่วยเพิ่มธาตุอาหารไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมในดิน
พื้นที่ปลูกไม้ผลไม้ยืนต้น
หลังจากน้ำลดแล้ว หากพบว่าต้นไม้ผลมีลำต้นเอนใกล้ล้มให้ใช้ไม้ค้ำยันไว้ โดยไม่เข้าไปเหยียบย่ำโคนต้น เมื่อดินเริ่มแห้งให้ตัดแต่งกิงใบแก่และใบที่ไม่ได้รับแสงแดดออก หากต้นไม้ผลที่ยังมีผลติดอยู่ให้ตัดผลออก เพื่อไม่ให้แย่งสารอาหารที่จะนำไปฟื้นฟูรากและลำต้นไม้ผล และอาจมีการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบให้บ้าง
พื้นที่ปลูกพืชผัก
การลงมือปลูกพืชผักใหม่ทันทีหลังน้ำลดอาจจะทำให้ราเน่า ควรรอให้ดินแห้งระยะหนึ่งก่อน ระยะเตรียมดินควรพิจารณาชนิดผักจะปลูก และควรเพาะกล้าหรือปลูกลงแปลงเล็กๆ ไว้ก่อนเพื่อการดูแลที่ง่ายหลังจากดินแห้งจึงย้ายกล้าที่เพาะไว้ลงดิน
ที่มา : กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร