วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2564

โครงเหล็กสำหรับปูพื้นด้วยกระเบื้องแผ่น "ปลูกผักยกแคร่"

 


#แคร่ปลูกผักที่ใช้กระเบื้องขนาด 4 ฟุต จำนวน 2 แผ่นปูพื้นก่อนใช้ตาข่ายสีฟ้าหรือซาแลนปูพื้นยกขอบแล้วใส่ดินดินปลูก
#ใช้เหล็กพรีกัลวาไนท์ ขนาด 1 นิ้ว ขนาดยาวดังนี้
ยาว 115 cm.จำนวน 4 ท่อน เชื่อมโครงด้านยาวบนล่าง
ยาว 88 cm.จำนวน 5 ท่อน เชื่อมโครงด้านขวางบนล่าง และกลางพื้นล่าง
ยาว 85 cm.จำนวน 4 ท่อน ทำขา
ยาว 12.5 cm จำนวน 2 ท่อน เชื่อมกลางบนล่าง
รวมใช้เหล็ก 2 เส้นกว่าๆ



วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2564

สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง: ประชุมชี้แจงโครงการมาตรการภาครัฐ ปี 2563 และเร่งรั...

สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง: ประชุมชี้แจงโครงการมาตรการภาครัฐ ปี 2563 และเร่งรั...:           วันที่ 12 มกราคม 2564  นางอุบล มากอง ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ นางสาวนคร คมกล้า นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการพิเศ...

สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง: ประชุมแนวทางมาตรการการควบคุมและป้องกันแก้ไขทุเรียน...

สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง: ประชุมแนวทางมาตรการการควบคุมและป้องกันแก้ไขทุเรียน...:             วันที่ 11 มกราคม 2564  นายปิยะ สมัครพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง เป็นประธานการประชุม แนวทา...

วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2564

แนวทางการฟื้นฟูและปรับสภาพดินให้เหมาะสมกับการปลูกพืช เพื่อใช้ในการเพาะปลูกพืชรอบการผลิตครั้งต่อไป

 

จากสถานการณ์น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบเพิ่มความเสียหายให้กับหน้าดิน ผิวหน้าดินจะถูกชะล้างและมีตะกอนดินขนาดเล็กหรือเลน ที่ถูกพัดพามากับน้ำทับถมอยู่บริเวณผิวดิน และอุดตามช่องว่างในดิน ทำให้ดินมีปัญหาการระบายน้ำและอากาศ ในขณะเดียวกันพื้นที่มีกระแสน้ำหลากจะพัดพาจุลินทรีย์หน้าดินออกไปด้วย และอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นกรดเป็นด่างของดิน การฟื้นฟูและปรับสภาพดินหลังน้ำลดเพื่อทำการเพาะปลูกพืช ในภาพรวมมีแนวทางการปฏิบัติ ดังนี้

  1. ขณะที่ดินยังเปียกหรือดินชี้นอยู่ หลีกเลี่ยงการเดินเหยียบย่ำและใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าในพื้นที่ เพื่อป้องกันดินอัดแน่น โครงสร้างดินถูกทำลาย ดินขาดออกซิเจน
  2. เมื่อดินเริ่มแห้งให้ขุดหรือปรับเอาตะกอนดินหรือเลนที่น้ำพัดพามา ออกจากโคนต้นไม้ผล ไม้ยืนต้น และพรวนดินเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้แก่รากพืชและจุลินทรีย์ดิน
  3. ฟื้นฟูคุณสมบัติของดินเพื่อการเจริญเติบโตของพืชในรอบการผลิตต่อไป โดยใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มธาตุอาหารพืชในดินร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน เช่นปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และอาจต้องใช้ปูนปรับสภาพความเป็นกรดของดิน ตามสภาพความรุนแรงของกรดในพื้นที่ รวมทั้งใส่สารชีวภัณฑ์จำพวกไตรโคเดอร์มา ซี่งเป็นสารกำจัดเชื่อราในดิน
  4. ในพื้นที่ที่มีความลาดเท ต้องมีมาตรการป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน โดยจัดทำแนวคันดิน หรือการปลูกพืชเป็นแนวแทนคันดิน ตามแนวระดับขวางความลาดเทของพื้นที่ เพื่อที่จะสามารถเก็บกักตะกอนดินได้ โดยปล่อยให้น้ำสามารถผ่านได้บ้างบางส่วน
  5. การจัดการทรัพยากรดินในพื้นที่น้ำท่วมอย่างยั่งยืน โดยปลูกพืชตระกูลถั่วหรือคลุมดินด้วยเศษพืชระหว่างแถวปลูกพืช เพื่อยึดหน้าดินรวมถึงชะลอการไหลของน้ำ ซึ่งอาจพัดพาหน้าดินที่อุดมสมบูรณ์ไป
พื้นที่ปลูกยางพารา
          เกษตรกรควรดำเนินการเร่งขุดร่องระบายน้ำ บริเวณกึ่งกลางระหว่างแถวปลูกยางออกจากสวนยางโดยเร็ว และควรใช้แรงงานคน หรือเครื่องจักรขนาดเล็กเท่านั้น ไม่ควรใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ขุดร่องน้ำ เพราะจะทำให้โครงสร้างของดินยังไม่แน่นพอเสียหาย อาจทำลายรากยางโดยตรง และควรงดใส่ปุ๋ยทุกชนิดในขณะที่ดินยังไม่แห้ง เพราะอาจทำให้เกิดภาวะความเป็นพิษต่อต้นยาง เนื่องจากส่วนของรากขาดออกซิเจน ควรรอให้ต้นยางฟื้นตัวและแข็งแรงดีเสียก่อน อย่างน้อยประมาณ ๓๐ วัน จึงทำการใส่ปุ๋ย หากกรณีต้นยางมีอายุไม่เกิน 1-4 ปี ให้เกษตรกรตัดแต่งกิ่งหลัก เพื่อหลดน้ำหนักและลดการคายน้ำของต้นยาง พร้อมทั้งยกต้นยางให้ตั้งตรงโดยใช้ไม้ค้ำยัน เพื่อให้ต้นยางพารากลับสูสภาพเดิมได้เร็วขึ้น เมื่อดินแห้งให้พรวนดินโคนต้นยางที่อายุน้อยเพื่อปรับสภาพทางกายภาพของดิน สำหรับยางพาราที่อายุมากไม่ควรพรวนดินใต้โคนต้น เพราะจะทำให้กระทบกระเทีอนต่อราก

พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน
          ต้นปาล์มน้ำมันที่ล้มหรือเอนเอียง ควรจัดการให้ต้นปาล์มตั้งตรงเช่นเดิม ต้นปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้ว หากน้ำท่่วมทะลาบเป็นเวลานาน จะทำให้ทะลายเน่าต้องตัดทะลายที่เน่าทิ้ง เพื่อให้ให้ต้นปาล์มน้ำมันพื้นตัวเร็วขึ้น ควรมีการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบให้บ้าง เพราะระบบรากของพืชยังไม่สามารถทำงานได้เต็มที่

พื้นที่ปลูกข้าว
          หากนาข้าวถูกน้ำท่วมขังจนเสียหายหมด หลังน้ำลดควรปลูกพืชปุ๋ยสด เพื่อปรับปรุงบำรุงดินและเพิ่มธาตุอาหารพืช เช่น ปอเทือง โสนแอฟริกัน ถั่วพร้า ถั่วมะแฮก จะช่วยเพิ่มธาตุอาหารไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมในดิน

พื้นที่ปลูกไม้ผลไม้ยืนต้น
          หลังจากน้ำลดแล้ว หากพบว่าต้นไม้ผลมีลำต้นเอนใกล้ล้มให้ใช้ไม้ค้ำยันไว้ โดยไม่เข้าไปเหยียบย่ำโคนต้น เมื่อดินเริ่มแห้งให้ตัดแต่งกิงใบแก่และใบที่ไม่ได้รับแสงแดดออก หากต้นไม้ผลที่ยังมีผลติดอยู่ให้ตัดผลออก เพื่อไม่ให้แย่งสารอาหารที่จะนำไปฟื้นฟูรากและลำต้นไม้ผล และอาจมีการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบให้บ้าง

พื้นที่ปลูกพืชผัก
           การลงมือปลูกพืชผักใหม่ทันทีหลังน้ำลดอาจจะทำให้ราเน่า ควรรอให้ดินแห้งระยะหนึ่งก่อน ระยะเตรียมดินควรพิจารณาชนิดผักจะปลูก และควรเพาะกล้าหรือปลูกลงแปลงเล็กๆ ไว้ก่อนเพื่อการดูแลที่ง่ายหลังจากดินแห้งจึงย้ายกล้าที่เพาะไว้ลงดิน


ที่มา : กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร