——————
มีหลายๆ ท่านสอบถามมาว่าทำไมทุเรียนตัดส่งตรงจากสวนถึงแพงกว่าตลาดทั้งๆ ที่ตลาดต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง แล้วคุณภาพมันต่างกันกับทุเรียนทั่วๆ ไปยังไง วันนี้พอจะมีเวลาเลยขออธิบายเรื่องเกรดของทุเรียนในลักษณะที่ผมและสมาชิกชมรมฯ ตลอดจนคอทุเรียนชั้นเซียนชอบเรียกกันบ่อยๆ ว่า "ทุเรียนสวน" "ทุเรียนตลาด" และ "ทุเรียนส่งออก" เอาง่ายๆ ว่าเป็นการแบ่งระดับคุณภาพเลยก็ว่าได้
อันที่จริงทุเรียนสวน ทุเรียนตลาด และทุเรียนส่งออก มีที่มาจากจุดเดียวกันนั่นคือ สวนทุเรียนนั่นเอง(มิใช่ทุเรียนตลาดจะปลูกที่ตลาดนะครับ ๕๕๕) ถึงแม้จะมาจากสวนทั้ง ๓ประเภทแต่มีความแตกต่างกันมากทีเดียว เเตกต่างอย่างไรมาทำความเข้าใจด้วยกันครับ
๑. ทุเรียนสวน คือ ทุเรียนที่ชาวสวนขายเองส่งตรงถึงมือผู้บริโภค คุณภาพความอร่อยสูงที่สุดในบรรดาทุเรียนที่มีในเมืองไทย เพราะ ทุเรียนประเภทนี้จะไม่มีวางขายตามตลาด ไม่มีการส่งออก ขายแค่ในประเทศคนที่รับประทานทุเรียนแบบนี้จะต้องเป็นคอทุเรียนจริงๆ เพราะมีราคาสูงกว่ามาก ขั้นต่ำราคา ๑๖๐บาท/กิโลกรัม ตามแต่ละสายพันธุ์และตามคุณภาพเนื้อ พูดง่ายๆ ว่าเขาเฝ้าดูแลตั้งแต่ดอกบาน มีการทำเครื่องหมายรุ่นเช่น ทาสี แต้มสีผูกริบบิ้น เชือกสี เป็นต้น เพราะจะทำให้ตัดแต่ที่แก่จัดเรียงตามรุ่นตามดอกบานไปไม่ผิดพลาด การตัดทุเรียนแบบนี้ใช้เวลามากกว่าทุเรียนตลาดเพราะไม่ตัดทั้งหมดแต่จะเลือกตัดเป็นลูกๆ คัดแก่จริงๆ
ยกตัวอย่างทุเรียนก้านยาวชั้นดี การตัดจะต้องตัดชิดกิ่ง ค่อยๆ ผูกเชือกหรือใส่ตะกร้าหย่อนลงมาให้คนที่อยู่ด้านล่างคอยรับวางบนรถ ห้ามวางลงบนพื้นดินเพราะเชื้อราบนดินจะเกาะติดเเละเข้าไปทำลายลูกทุเรียนทางแผลที่ปลายหนามได้ ต้องพิถีพิถันกันสุดๆ ห้ามกระแทกเพราะจะช้ำ เพราะหลังตัดทุเรียนจะสุกโดยธรรมชาติในเวลา ๑ หรือ ๒คืนและจะไม่มีการแต้มยาเร่งสุกใดๆ ทั้งสิ้น ต้นนึงปีนตัดกันหลายรอบ หลังจากตัดแล้วต้องนำมาคัดเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อคัดลักษณะผลเพื่อให้ได้คุณภาพเนื้อที่ดีที่สุด และกำหนดเวลาในการบริโภค เมื่อตรวจสอบกะเวลาสุกจะติดสติ้กเกอร์รับประกัน พอ QC เรียบร้อยก็จัดการบรรจุลงกล่องเพื่อจัดส่งไปให้ผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ ทุเรียนประเภทนี้มีจำหน่ายแต่จะมีจำนวนจำกัด ส่วนมากจะลงชื่อจองกันข้ามปี เช่นทุเรียนนนท์ ทุเรียนในชมรมคนรักทุเรียนแห่งประเทศไทย เพราะเราจะคัดเลือกทุเรียนจากสวนที่มีความรู้ความเข้าใจ เอาใจใส่คุณภาพและเอาใจใส่ผู้บริโภค ไม่เอาเปรียบ ทุกสวนจะตั้งใจดูแลผลผลิตมากๆ ไม่ขายให้พ่อค้าคนกลางทำให้ไม่ถูกกลไกราคาทุเรียนตลาดมาครอบงำ เช่นสวนคุณไพบูลย์ สวนบ้านเรา สวนลุงเสริม สวนละอองฟ้า และอีกหลายสวนที่ชมรมฯ กำลังสำรวจ ตรวจสอบคุณภาพการผลิต
๒. ทุเรียนตลาด มีที่มาจากสวนเหมือนทุเรียนสวน การบำรุงดูแลอาจไม่ต่างกัน แต่สิ่งที่ต่างคือ การตัดและการขายครับ ทุเรียนเหล่านี้พอถึงระยะเวลาหนึ่งความแก่ประมาณ ๕๐ หรือ ๖๐% ก็จะมีพ่อค้าวิ่งเข้ามาตีราคา นับต้นเหมาสวนกันไปเช่นให้กิโลฯ ละ ๓๐ ถึง ๗๐ ราคาขึ้นลงแล้วแต่ปีนั้นๆ มีการเซ็นต์สัญญาวางมัดจำกันไป แล้วเขาก็มาตัดเหมาไปหมดเรียกว่าเหมาทุกหนาม แก่อ่อนตัดเกลี้ยง ตัดเสร็จชั่งขึ้นรถจ่ายเงินเป็นก้อนให้ชาวสวน ปีนั้นชาวสวนก็นอนตีพุงได้เลย อาจดูมีความสุขแต่มันไม่ยั่งยืนเดี๋ยวมาว่ากันในลำดับต่อไป หลังจากทุเรียนขึ้นรถก็พ้นภาระเจ้าของสวน ทีนี้พ่อค้าก็จะตัดขั้วให้สั้นเพราะทุเรียนยังแก่ไม่จัด ถึงแก่ก็ไม่ถึง ๗๐ ด้วยซ้ำ ก็จะใช้วิธีการแต้มน้ำยาเร่งสุกเพื่อให้มันสุกเร็วๆ(ทุเรียนไม่แก่จะไม่ยอมสุกต้องมีสารเคมีมาเร่งมัน) และผลของน้ำยาเร่งสุกจะทำให้ไส้ทุเรียนร้อน เนื้อนิ่มแต่เปอร์เซ็นต์แป้งในเนื้อมีไม่พอทำให้รสชาติไม่หวานมันแถมเหม็นฉุน หาทุเรียนไม่แต้มยาขั้วยาวๆ แบบทุเรียนสวนยากครับ ตั้งแต่เดินสำรวจมาทุเรียนตลาดไม่ได้คุณภาพเลย แต่กินแก้ขัดได้และดูว่าคนไทยจะกินมันจนคุ้นลิ้นกันไปแล้ว แถมราคาไม่แพง ทุเรียนที่ตัดก็จะถูกส่งไปยังตลาดขายส่งมีชื่อที่ทุกท่านรู้จักกัน หลังจากนั้นเมื่อแม่ค้าแกะทุเรียนมาซื้อไปขาย ไปถึงร้านขายทุเรียนแกะก็ตกโลละ ๘๐ ถึง ๙๐ บาท ราคาเบาหาซื้อง่ายเลยขายกินถล่ม อ๋อ (..)ลืมไป การแต้มน้ำยาทำให้ทุเรียนนิ่มเร็วโดยที่น้ำหนักไม่ลดนัก ผมไม่ใช้คำว่าสุกนะ น้ำยาทำให้นิ่มและน้ำหนักไม่ลดลงมากทำให้ขายได้น้ำหนัก เมื่อน้ำหนักไม่หายมากซื้อไป ๑ตันอาจชั่งขายได้ ๙๐๐ กิโลฯ เป็นอย่างต่ำ ทุเรียนปกติทั่วไปเมื่อตัดหนัก ๑ กิโลกรัม พอสุกจะคายน้ำจนเนื้อเเห้งเหลือน้ำหนักประมาณ ๖ ถึง ๗ ขีดน้ำหนักจะหายไปเกือบครึ่งๆเลย แต่เพราะการคายน้ำออกทำให้ทุเรียนเนื้อแห้งหวานมันมีคุณภาพรสชาติดีที่สุด แต่ทุเรียนแต้มยาเนื้อจะแฉะเละเมื่อความสุกอยู่ในระดับเดียวกันกับทุเรียนธรรมชาติ นั่นเป็นสาเหตุที่ ค่านิยมกรอบนอกนุ่มในกำลังระบาดในไทยเพราะทุเรียนตามตลาดกินสุกมักไม่อร่อยแบบนั้น (...) จะให้อร่อยได้ไงก็มันเละเหม็นขม ขั้วเหี่ยวแห้งเลย ผลสรุปว่าทุเรียนตลาดราคาถูก คุณภาพด้อย แต่หาซื้อง่ายเข้าถึงผู้บริโภคเพราะยังขาดความรู้ความเข้าใจ ปัจจุบันกระแสสุขภาพกำลังมาแรง หลายคนที่สนใจดูแลสุขภาพหันมาสั่งทุเรียนในชมรม และสั่งจองจากสวนโดยตรงทำให้ทุเรียนสวนคุณภาพได้มีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง จนเกิดเครือข่ายผู้บริโภค ใครได้ชิมทุเรียนสวนแก่จัดสุกแบบธรรมชาติรับรองว่าจะไม่กลับไปกินทุเรียนตลาดอีกเลย
๓. ทุเรียนส่งออก มีที่มาจากสวนทุเรียนปกติแบบทุเรียนดังที่กล่าวมาแล้วทั้ง ๒ ประเภทนั่นเอง มีการดูแล อัดปุ๋ยอย่างดีเน้นรูปทรงผลใหญ่พูเต็มน้ำหนักเยอะๆ โดยมากจะตัดที่ความแก่ราวๆ ๖๐ ราคาก็ว่ากันไปปีนี้เห็นราคาหน้าสวนที่ ๙๐บาทขึ้นไปสำหรับส่งออกนะครับ มีการเหมาตัดเหมือนทุเรียนตลาด ตัดเสร็จชุบน้ำยาสารพัดบรรจุตู้ส่งออก คนไทยไม่ได้เห็นแน่นอนทุเรียนพวกนี้ ถึงเห็นผมคนนึงครับจะไม่รับประทานแน่นอน (!)
สมาชิกในชมรมหลายๆ สวนหันมาใส่ใจผู้บริโภค หันมาจำหน่ายทุเรียนที่เขาดูแลเท่าชีวิตเพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด เขาไม่ยอมให้ความสะดวกสบายในเรื่องการเหมาตัดรับเงินก้อนนอนตีพุงมาครอบงำ เพราะวงจรนี้ทำให้ทุเรียนคุณภาพของเขาหมดโอกาสเดินทางไปถึงฝันถูกตัดตั้งแต่ยังอ่อนๆ ไร้ค่าไร้ราคา สู้เขายอมเหนื่อยดูแลผลผลิตจนแก่เต็มที่ขายตรงให้ผู้บริโภค ได้รับคำชมได้รับคำขอบคุณจากปากผู้บริโภคมีความสุขกว่า ผู้บริโภคเองก็ได้รับประทานทุเรียนชั้นดี ปลอดภัยต่อสุขภาพ
เมื่ออ่านบทความนี้แล้วท่านลองสำรวจตัวเองว่าทุเรียนที่เราซื้อหามากินนั้น อยู่ในกลุ่นไหน ชอบบริโภคทุเรียนแบบไหน ปรับพฤติกรรมการบริโภคเพื่อสุขภาพวันนี้ไม่มีคำว่าสายครับ
ขอจบบทความเรื่องประเภททุเรียนในเมืองไทยไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อนครับ หวังว่าบทความสั้นๆ นี้จะมีประโยชน์กับท่านผู้นิยมบริโภคทุเรียนกันไม่มากก็น้อย
ด้วยรักและปราถนาดีจาก ชมรมคนรักทุเรียนแห่งประเทศไทยครับ (happy)
ที่มา.ชมรมคนรักทุเรียนแห่งประเทศไทย