วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563
วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563
กรมส่งเสริมการเกษตร แนะ เกษตรกร โหลดฟรี Farmbook ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรตรวจสอบการรับสิทธิ์ต่าง ๆ เลี่ยงเดินทาง-ลดเสี่ยงแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ปรับปรุงแอปพลิเคชัน สมุดทะเบียนเกษตรกรดิจิทัล หรือ Farmbook (ฟาร์มบุ๊ค) ล่าสุด จากเดิมใช้ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ให้เกษตรกรสามารถตรวจสอบการเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 2562/63 จากประกาศจากกรมการค้าภายใน และติดตามผลการโอนเงินที่รับจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 2562/63 ปัจจุบัน แอปพลิเคชัน Farmbook
มียอดการดาวน์โหลดรวมจำนวนกว่า 1.6 ล้านครัวเรือน จากจำนวนเกษตรกรที่มาปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกว่า 6 ล้านครัวเรือน
มียอดการดาวน์โหลดรวมจำนวนกว่า 1.6 ล้านครัวเรือน จากจำนวนเกษตรกรที่มาปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกว่า 6 ล้านครัวเรือน
ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Farmbook ในการแจ้งข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน ได้ 4 ประเภท คือ
1) การแจ้งปรับปรุงข้อมูลกิจกรรมการเพาะปลูก เฉพาะแปลงเดิมที่ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ในปีการผลิตที่ผ่านมา คือ ข้อมูลเอกสารสิทธิ์ เช่น เนื้อที่ / ที่ตั้ง / พิกัด กิจกรรมการเกษตร ประกอบด้วย ชนิด /พันธุ์พืช วันที่ปลูก วันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยว เนื้อที่ปลูก ปีเพาะปลูก และประเภทการทำการเกษตรกรรมยั่งยืน
2) การติดตามผลการแจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร แสดงรายละเอียดแปลงที่มีการแจ้งปลูก เพื่อติดตามสถานะการแจ้งปลูก ทั้งนี้แปลงที่แจ้งปลูกผ่านแอปพลิเคชัน สามารถลบ/แก้ไข กรณีแจ้งปลูกผิด แต่สถานะการแจ้งปลูกต้องยังไม่จัดชุด ส่วนแปลงที่แจ้งปลูกผ่านเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งลบ/ แก้ไขที่สำนักงานเกษตรอำเภอเท่านั้น
1) การแจ้งปรับปรุงข้อมูลกิจกรรมการเพาะปลูก เฉพาะแปลงเดิมที่ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ในปีการผลิตที่ผ่านมา คือ ข้อมูลเอกสารสิทธิ์ เช่น เนื้อที่ / ที่ตั้ง / พิกัด กิจกรรมการเกษตร ประกอบด้วย ชนิด /พันธุ์พืช วันที่ปลูก วันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยว เนื้อที่ปลูก ปีเพาะปลูก และประเภทการทำการเกษตรกรรมยั่งยืน
2) การติดตามผลการแจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร แสดงรายละเอียดแปลงที่มีการแจ้งปลูก เพื่อติดตามสถานะการแจ้งปลูก ทั้งนี้แปลงที่แจ้งปลูกผ่านแอปพลิเคชัน สามารถลบ/แก้ไข กรณีแจ้งปลูกผิด แต่สถานะการแจ้งปลูกต้องยังไม่จัดชุด ส่วนแปลงที่แจ้งปลูกผ่านเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งลบ/ แก้ไขที่สำนักงานเกษตรอำเภอเท่านั้น
3) การติดตามผลการเข้าร่วมโครงการภาครัฐด้านการเกษตร โดยแสดงรายการโครงการที่เข้าร่วมและผลการโอนเงินตามเงื่อนไขโครงการ และ
4) การคาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยแสดงรายละเอียด ช่วงวันที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คาดการณ์ผลผลิต คาดการณ์กำไร และราคาขาย
4) การคาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยแสดงรายละเอียด ช่วงวันที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คาดการณ์ผลผลิต คาดการณ์กำไร และราคาขาย
กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน “สมุดทะเบียนเกษตรกรดิจิทัล (Farmbook)” ทางระบบออนไลน์โดยสำรวจเฉพาะเกษตรกรที่ลงทะเบียนใช้งานแอปพลิเคชั่น ระหว่างวันที่ 15 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อประมวลผลข้อมูลนำมาปรับปรุง ผลการสำรวจ พบว่า มีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นรวม 49,579 เครื่อง โดยเกษตรกรให้คะแนนความพึงพอใจการใช้งานแอปพลิเคชัน Farmbook ที่ 4.7 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน นอกจากนี้ยังได้แสดงความคิดเห็นว่า การใช้งานแอปพลิเคชัน Farmbook ทำให้มีความสะดวก รวดเร็วในการรับข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐด้วย
กรมส่งเสริมการเกษตร ขอเชิญชวนเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว และมีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน Farmbook ไปใช้งานได้
ซึ่งยังเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้ด้วยที่จะลดการเดินทางมาสำนักงานเกษตรอำเภอ และลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในขณะนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร มีความห่วงใย และให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัย ความปลอดภัยของประชาชนที่มาติดต่อราชการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างเต็มที่ โดยมีมาตรการและการดำเนินการเพื่อป้องกัน ควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 ให้เกิดความปลอดภัยตามที่กรมควบคุมโรค และกระทรวงสาธารณสุข แนะนำไว้อย่างเคร่งครัดด้วย
วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2563
วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2563
เกษตรฯ เผยแผนจัดการไม้ผลกว่า 80,000 ตัน เซ่นพิษ COVID-19 หากส่งออกจีนไม่ได้
กระทรวงเกษตรฯ เผยมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ที่มีต่อผลไม้ไทย ทำให้ไม่สามารถส่งออกไปยังตลาดหลักอย่างสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ โดยเฉพาะทุเรียน 58,471 ตัน มังคุด 12,105 ตัน และเงาะ 13,699 ตัน รวม 84,275 ตัน พร้อมงัด 2 มาตรการหลัก คือ การช่วยเหลือในการกระจายและควบคุมคุณภาพสินค้าเกษตร และการช่วยเหลือทางการเงินแก่สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการ
วันที่ 19 มีนาคม 2563 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 2/2563 ณ ห้องประชุม 7 ชั้น 5 อาคาร 1 กรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งคณะทำงานจัดทำข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคตะวันออก ได้วิเคราะห์สถานการณ์การผลิตไม้ผล เมื่อมีการระบาดของโรค COVID-19 โดยคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณผลผลิตในปี 2563 คือ ทุเรียน 584,712 ตัน โดยจะออกสู่ตลาดมากในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563 มังคุด 201,741 ตัน จะออกสู่ตลาดมากในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2563 และเงาะ 220,946 ตัน จะออกสู่ตลาดมากในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2563
ทั้งนี้ ในภาวะปกติหากไม่มีผลกระทบโรค COVID-19 คาดว่าจะส่งออกทุเรียน 409,298 ตัน มังคุด 121,045 ตัน และเงาะ 15,466 ตัน ปริมาณรวม 545,809 ตัน แต่หากได้รับผลกระทบ COVID-19 มีการวิเคราะห์ว่าจะส่งออกทุเรียนได้ 350,827 ตัน มังคุด 108,940 ตัน และเงาะ1,767 ตัน ปริมาณรวม 461,534 ตัน จึงมีส่วนต่างของผลผลิตที่ส่งออกไม่ได้ครบตามภาวะปกติ ดังนี้ ทุเรียน 58,471 ตัน มังคุด 12,105 ตัน และเงาะ 13,699 ตัน รวมทั้งสิ้น 84,275 ตัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต้องบริหารจัดการในกรณีที่ได้รับผลกระทบ COVID-19 ทำให้ส่งออกตลาดจีนไม่ได้
โดยมีนายทวี มาสขาว รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ กรรมการ Fruit Board ได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งนายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทย อุปนายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออก และนายกสมาคมผู้ส่งออกผักและผลไม้ กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ได้ข้อสรุป 2 มาตรการหลักในส่วนของผลไม้ คือ 1. มาตรการช่วยเหลือในการกระจายและควบคุมคุณภาพสินค้าเกษตร ประกอบด้วย 4 โครงการย่อย ได้แก่ 1) โครงการประสานใจเกษตรกรไทยสู่พี่น้องชาวจีนสู้วิกฤต COVID-19 2) โครงการรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคผลไม้ภายในประเทศ Eat Thai First 3) โครงการสินค้าเกษตรไทยปลอดภัยจาก COVID-19 4) โครงการหาตลาดใหม่สินค้าเกษตรเพิ่มเติม
และ 2. มาตรการช่วยเหลือทางการเงินแก่สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการ เพื่อช่วยลดภาระทางการเงิน ซึ่งในแต่ละมาตรการจะมีโครงการย่อยและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบ ในการร่วมรณรงค์บริโภคผลไม้และกระจายผลผลิตไปยังแหล่งต่าง ๆ จำนวน 84,275 ตัน
https://www.facebook.com/137851766884391/posts/499834564019441https://www.facebook.com/137851766884391/posts/499834564019441//
วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563
เกษตรภาคตะวันออกหนุนผลิตมะม่วงนอกฤดูส่งออกเวียดนาม
วันนี้ 12 มีนาคม 2563 นายดำรงฤทธิ์ หลอดคำ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร ที่ 3 จังหวัดระยอง ร่วมงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) โดยนายบุญส่ง ศรีเจริญธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมประมง เป็นประธานเปิดพิธี เป้าหมายเพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้เข้ามาเรียนรู้ รับทราบเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ ช่องทางการตลาด ข้อมูลข่าวสาร การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเกษตรกรด้วยกันเอง รวมทั้งนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ซึ่งเป็นตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ โดยใช้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรการผลิตมะม่วงนอกฤดูบ้านมาบเหียง ตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ เป็นสถานที่จัดงานและเป็นแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตร ที่มีเกษตรกรผู้นำเป็นผู้บริหารจัดการภายใต้การสนับสนุนของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การจัดงาน Field day จึงเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นฤดูการผลิตใหม่ ที่เหมาะสมของเกษตรกร มีเป้าหมายการนำเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะม่วง จำนวน 5 สถานี และมีสถานีสนับสนุน 1 สถานี เพื่อให้เกษตรกรได้เรียนรู้ ดังนี้
1. สถานี เพาะ” เพาะพันธุ์เอง...ต้นทุนน่ารัก โดยนายสุริยา พรมมา เกษตรกรผู้นำ
2. สถานี “หมัก” หมักบ่ม...สะสมของดีไว้ โดยนายสุรชัย จำจด เกษตรกรผู้นำ
3. สถานี “ใส่” เลือกใส่ปุ๋ยให้พอดี...อย่างใส่ใจ โดยนายปรีชา พันธ์มาก เกษตรกรผู้นำ
4. สถานี “Fight” ดูแลป้องกันไว้...ศัตรูไม่ได้แอ้ม โดยนายสายนที ธรรมมะ Young Smart Farmer
5. สถานี “แซม” ปลูกหลายอย่างแซมกันไว้...รายได้เพิ่ม โดยนายสงคราม ธรรมมะ ประธาน ศพก. เครือข่าย
และสถานี “เศรษฐกิจพอเพียง” โดยหน่วยงาน สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดปราจีนบุรี, สำนักงานประมงจังหวัดปราจีนบุรี, สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดปราจีนบุรี, สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ปราจีนบุรี, สำนักงานสหกรณ์จังหวัดปราจีนบุรี
อีกทั้ง ยังมีการให้บริการด้านการเกษตร การจัดนิทรรศการให้ความรู้จากหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย
1. นิทรรศการแสดงองค์ความรู้ด้านข้าว โดยศูนย์วิจัยข้าวปราจีนบุรี
2. นิทรรศการการขยายพันธุ์พืช โดยศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา
3. นิทรรศการการผลิตพืชปลอดภัยตามระบบมาตรฐาน GAP โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรปราจีนบุรี
4. นิทรรศการการหยุดเผาและด้านอารักขาพืช โดย สำนักงานเกษตรจังหวัดปราจีนบุรี
5. นิทรรศการการบริหารจัดการน้ำ โดย สำนักงานเกษตรชลประทานปราจีนบุรี
6. นิทรรศการการบริหารจัดการดินและปุ๋ย โดย สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดปราจีนบุรี
7. นิทรรศการภารกิจงานฝนหลวง โดยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก
8. นิทรรศการกระบวนการผลิตมะม่วง และเทคโนโลยีการเก็บเกี่ยว โดย ศพก. การผลิตมะม่วงนอกฤดูบ้านมาบเหียง
9. การจัดแสดงนวัตกรรมเครื่องจักรกลทางการเกษตร โดย บริษัทชาญชุตินันท์ จำกัด
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมออกร้านจำหน่ายสินค้า ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร กลุ่มส่งเสริมอาชีพ, Smart Farmer, Young Smart Farmer และจุดบริการน้ำดื่มจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรการจัดงานในครั้งนี้ มีเกษตรกรในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงมาร่วมงานประมาณ 300 คน รวมทั้งได้รับความอนุเคราะห์ ความร่วมมือเป็นอย่างดีจากท่านนายอำเภอศรีมหาโพธิ หน่วยงานฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ภาคเอกชนแสดงนิทรรศการและสินค้า ที่เกี่ยวข้องกับด้านการเกษตร Smart Farmer และ Young Smart Famer ในจังหวัดปราจีนบุรี
Cr.Pr. จุฬาลักษณ์
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2822849037782867&id=1826178517449929
วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2563
เงาะสลัดผล
เงาะที่ติดผลดกมากเกินไปประมาณ 5 สัปดาห์หลังดอกบานจะเริ่มสลัดผลทิ้ง เป็นไปตามความสมดุลย์ระหว่างผู้สร้างอาหาร (Source) ได้แก่ใบที่สังเคราะห์แสงปรุงอาหารได้และผู้ใช้อาหาร (Sink) คือผลเงาะที่มีปริมาณมาก ในระยะผล 5-6 สัปดาห์หลังดอกบานผลเงาะจะเริ่มสร้างเมล็ดและเนื้อเป็นช่วงที่ต้องการอาหารเพื่อการเจริญเติบโตของผล เมื่ออาหารไม่เพียงพอจึงเกิดการสลัดผลทิ้งเป็นเรื่องปกติ แต่อย่างไรก็ตามการสลัดผลของพืชโดยธรรมชาติจะสลัดมากกว่าที่ต้นจะเลี้ยงได้ เราจึงควรจัดการเพื่อป้องกันการสลัดผลของเงาะดังนี้
1.ใส่ปุ๋ยบำรุงผลหลังการพลิกลูก ใช้ปุ๋ยสูตรที่มีไนโตรเจนสูง เช่น 15-0-0 หรือ 15-15-15 อย่าลืมว่าการใส่ปุ๋ยพืชควรใส่ครั้งละน้อยและบ่อยครั้งและใส่ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์เพื่อให้พืชได้รับธาตุอาหารมาอย่างต่อเนื่อง
2. ฉีดพ่นอาหารเสริมทางใบสูตรทางด่วนที่มีสารประกอบคาร์โบไฮเดรตเป็นองค์ประกอบหลัก + ปุ๋ยเกล็ด +กรดฮิวมิค อัตราตามคำแนะนำในฉลาก ระมัดระวังในการใช้น้ำตาลทางด่วนจะทำให้เกิดราดำ จึงควรผสมสารป้องกันกำจัดเชื้อราด้วย
3.ตัดแต่งช่อผลเงาะดกเกินไป โดยให้เหลือไม่เกิน 15 ผลต่อช่อ การตัดแต่งช่อผลทำได้ 2 แบบคือตัดออกทั้งช่อและตัดปลายช่อทิ้ง ซึ่งวิธีการตัดแต่งช่อผลเงาะเป็นเรื่องที่ชาวสวนปฏิบัติได้ยากเพราะต้องใช้แรงงานมาก
ช่วงระยะผลขอให้เฝ้าระวังการเข้าทำลายของเพลี้ยหอย เพลี้ยแป้ง และหนอนเจาะขั้วผลด้วย
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=185120089605705&id=109444640506584
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)